09 February, 2022

นักวิจัยค้นพบผลของ PM 2.5 ต่อภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

ช่วงนี้ PM 2.5 เริ่มสูงขึ้นอีกแล้ว ทำให้หลาย ๆ คนมีอาการทั้งภูมิแพ้ คัดจมูก ระคายเคืองตาบวม รวมทั้งหอบหืดที่เกิดจากการที่ภูมิคุ้มกันถูกกระตุ้นให้เกิดภาวะอักเสบ เจ็นโฟสิสเคยนำเสนอบทความก่อนหน้านี้ว่า ไม่ใช่แค่อาการเหล่านี้เท่านั้น แต่ค่าฝุ่นที่เพิ่มมากขึ้นและมลภาวะทางอากาศต่าง ๆ สามารถส่งผลต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ การศึกษาล่าสุดยังพบว่า PM2.5 อาจจะทำลายชีวิตรักของคุณผู้ชายได้จากการทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ( Erectile Dysfunction หรือ ED)

เมื่อเร็วๆ นี้ ทางทีมวิจัยของ Dr.Helen Sue จาก Tuft University ทำการศึกษาในผู้ชายกว่า 400 คน พบว่า ประวัติการสัมผัส PM2.5 ที่สูงเป็นระยะเวลานาน มีผลต่อการเกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวช้า เนื่องจาก PM2.5 จะเป็นสารอนุมูลอิสระสำคัญ ที่จะทำให้เกิดสภาวะเสื่อมของหลอดเลือดและเซลล์เยื่อบุผิวบริเวณต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงอวัยวะสำคัญของคุณผู้ชายด้วย นอกจากนี้ กระบวนการกระตุ้นความเสื่อมนี้ อาจทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง และยังทำให้เซลล์เยื่อบุหลอดเลือดแดงแข็งได้เช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ได้อีกด้วย

ทางที่ดี แนะนำว่าควรจะเช็คค่า PM2.5 อย่างสม่ำเสมอ หาอุปกรณ์ป้องกันทั้งในบ้าน ในรถ และหลีกเลี่ยงหรือใส่หน้ากากที่มีคุณสมบัติกรอง PM2.5 ได้เมื่อออกกลางแจ้ง หากต้องการทราบว่าตัวคุณไวต่อ PM 2.5 มากแค่ไหน หรือเสี่ยงต่อภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือไม่ รวมทั้งความไวต่อการใช้ไวอะกร้า ด้วยการตรวจ DNA test ที่ผู้เชี่ยวชาญไว้วางใจและไปต่อกับกระบวนการป้องกันและรักษาเฉพาะบุคคลจาก Genfosis 

ที่มา
Erectile dysfunction and exposure to ambient Air pollution in a nationally representative cohort of older Men https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5316194/
 
Tag: genfosis, dna, PM2.5, pollution, erectiledysfunction, ED